สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จัดประชุมสัมมนาเชิงวิชาการด้านพลังงานระหว่างประเทศ ประจำปี 2567 (ERC Forum 2024) ภายใต้หัวข้อ “Renewable and Sustainable Energy Transition” วันที่ 16 – 17 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้แทนองค์กรกำกับกิจการพลังงานจากประเทศสมาชิกอาเซียน หน่วยงานด้านพลังงานระดับสากลทั้งภาครัฐและเอกชน และประเทศสมาชิกองค์กรกำกับดูแลพลังงานระหว่างประเทศ (Energy Regulators Regional Association: ERRA) เข้าร่วมเวทีสัมมนากันอย่างคับคั่ง
การสัมมนาดังกล่าวได้รับเกียรติจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Science and Technology for Energy Transition” เพื่อสื่อสารนโยบาย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ภายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี วางเป้าหมายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค หรือ EV Hub
นอกจากการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ ERC Forum 2024 แล้ว สำนักงาน กกพ. ยังได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับองค์กรกำกับดูแลพลังงานระหว่างประเทศ (ERRA) ในการจัดประชุมสัมมนาองค์กรกำกับดูแลพลังงานระหว่างประเทศ Energy Regulators Forum (ERF) ในระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2567 โดยทั้งงาน ERC Forum 2024 และ งาน ERF ได้จัดขึ้นพร้อมกันกับงาน Future Energy Asia 2024 ซึ่งเป็นการประชุมด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานในเอเชีย พร้อมจัดงานนิทรรศการและ Showcase นวัตกรรมพลังงาน เพื่อมุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยมีหน่วยงานภาคนโยบาย ผู้นำด้านพลังงานโลก ผู้ประกอบการและนักลงทุน และองค์กรต่างประเทศเข้าร่วมด้วย สำนักงาน กกพ. คาดหวังว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่เกิดขึ้นจากเวทีสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความมั่นคง
ด้านพลังงานและพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างโอกาสในการปรับปรุงระบบโครงข่ายพลังงานของไทยให้ทันสมัยเพื่อรองรับการเชื่อมต่อพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี ค.ศ. 2030 การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2065 ตามเป้าหมายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ที่งาน COP26 และร่วมรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อโลกที่ดีขึ้นและเป็นสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน