Friday, 22 August 2025 - 1:21 am
spot_img
Friday, 22 August 2025 - 01:21
spot_img

กพช. เคาะให้ กฟผ. ขยายอายุ “โรงไฟฟ้าน้ำพอง” และเลื่อนแผนการปลด “โรงไฟฟ้าแม่เมาะ” ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าประชาชนกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท พร้อมสั่งให้ยกเลิกแผนแยก SO ออกจาก กฟผ.

กพช. เคาะให้ กฟผ. ขยายอายุโรงไฟฟ้าน้ำพองและเลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชนในระยะ 6 ปี รวมกว่า 85,754 ล้านบาท  พร้อมให้ยกเลิกแผนแยก SO ออกจาก กฟผ. เหตุมีความเหมาะสมกับโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้าของไทยรูปแบบ ESB และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล       

วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมได้ติดตาม ความคืบหน้าประเด็นการแยกศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า (System Operator: SO) ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 กพช. เคยมีมติให้แยก SO ออกมาเป็นนิติบุคคลใหม่ที่เป็นอิสระจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อย่างไรก็ตาม พบว่า SO ภายใต้ กฟผ. (Ring Fenced) เหมาะสมกับโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้าของไทยในรูปแบบ ESB (Enhance Single Buyer) และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาความมั่นคง ที่ประชุมจึงมีมติ ยกเลิกมติเดิมของ กพช. เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ให้แยก SO เป็นนิติบุคคลออกจาก กฟผ.

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการขยายอายุการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมน้ำพอง ชุดที่ 1 และ 2 ออกไปอีก 6 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2574 เพื่อให้สอดคล้องกับอายุสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ และรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ การขยายอายุการเดินเครื่องครั้งนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสุทธิได้ประมาณ 28,358 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 6 ปี อีกทั้งยังเป็นการใช้ทรัพยากรภายในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) นำเรื่องดังกล่าวบรรจุในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ตามขั้นตอนต่อไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กพช. ยังได้เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เพื่อทดแทนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนเครื่องที่ 8-9 โดยกำหนดให้เลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8 และ 11 จากวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ไปเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2574 หรือจนกว่าการปรับปรุงเครื่องที่ 12 และ 13  จะแล้วเสร็จ (ประมาณปี 2574) และดำเนินการปรับปรุงโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 12 และ 13 พร้อมเลื่อนแผนการปลดออกไปจนถึงปี 2591 โดยจะหยุดเดินเครื่องชั่วคราว (ไม่จ่ายไฟเข้าระบบ) ระหว่างการปรับปรุงในช่วงปี 2569–2574

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะช่วยลดการลงทุนใช้ทรัพยากรภายในประเทศอย่างคุ้มค่า ลดการนำเข้า Spot LNG และลดผลกระทบค่าไฟฟ้าต่อประชาชน โดยคาดว่าจะสามารถลดค่า Ft ได้ประมาณ 3.67 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าลดลงราว 9,566 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ กฟผ. เสนอเรื่องขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 เกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนเครื่องที่ 8–9 พร้อมทั้งมอบหมายให้ สนพ. บรรจุแนวทางดังกล่าวไว้ในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และ กฟผ. กำหนดราคาจำหน่ายไฟฟ้าแก่ประเทศเพื่อนบ้าน ตามมติ กพช. ปี 2558 อย่างเคร่งครัด และเห็นชอบแนวทางปรับปรุงราคาสำหรับสัญญาในอนาคต เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าของประเทศและเป็นธรรมต่อประชาชนในประเทศ โดยกำหนดชัดเจนว่าราคาจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาที่จำหน่ายให้ประชาชนภายในประเทศ ทั้งนี้ กพช. ยังได้มอบหมายให้ กฟผ. และ กฟภ. ร่วมกันศึกษาแนวทางการกำหนดราคาที่เหมาะสม และนำเสนอต่อ กพช. ต่อไป

LATEST NEWS