กฟผ. จับมือ มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา และมูลนิธิกระจกเงา รุดลงพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.เชียงราย เคลียร์พื้นที่โคลนเพื่อคืนความสะอาด พร้อมเตรียมซ่อมแซมระบบไฟฟ้า หลังน้ำลด ให้ผู้ประสบอุทกภัย
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ ดร.กมล ตรรกบุตร ประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา นายณัฐพล สิงห์เถื่อน ผู้อำนวยการศูนย์อาสาล้างบ้าน มูลนิธิกระจกเงา สำนักงานเชียงราย พร้อมด้วยจิตอาสา กฟผ. ลงพื้นที่ทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.เชียงราย หลังน้ำลด
ในการเข้าพื้นที่ในครั้งนี้ กฟผ. ได้ระดมทั้งพนักงาน จิตอาสา กฟผ. รวมถึงรถเครื่องจักรกลขนาดใหญ่เกือบ 20 คัน ประกอบด้วย รถตักหน้าขุดหลัง รถตักล้อยาง รถขุดล้อยาง รถบรรทุกเทท้าย 6 ล้อ รถบรรทุกเทท้าย 10 ล้อ รถบรรทุกน้ำพร้อมหัวฉีด ขนาดความจุ 12,000 ลิตร 10,000 ลิตร และ 6,000 ลิตร อีกทั้งรถเทรลเลอร์ เพื่อใช้ขนโคลนและฉีดล้างทำความสะอาดคราบโคลน รวมถึงใช้เก็บกวาดขยะ สิ่งของ และเศษวัสดุที่หลงเหลือจากเหตุอุทกภัย เพื่อเร่งทำความสะอาดพื้นที่ชุมชน ที่พักอาศัย หลังน้ำลด เพื่อคืนพื้นที่ให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
ในโอกาสเดียวกัน กฟผ. และมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ได้สำรวจความเสียหายของอาคารบ้านเรือน โดยทีมวิศวกรอาสาและช่างอาสาที่เชี่ยวชาญในการตรวจสอบและซ่อมแซมระบบไฟฟ้า และอาคารเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยมูลนิธิและเครือข่ายจิตอาสากว่า 600 คน จะดำเนินซ่อมแซม เปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าและแสงสว่างให้กับบ้านเรือน โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ รวมถึงดูแลด้านโครงสร้างแก่สถานที่รัฐและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการฟื้นฟูตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2567 ในพื้นที่ อ.เมือง และอ.แม่สาย เชียงราย และดำเนินการในพื้นที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงใหม่ ต่อไป
นอกจากนี้ มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ยังมีสมาคมผู้ตรวจสอบอาคารและสมาคมวิศวกรโครงสร้างไทยที่มี วิศวกรและสถาปนิกช่วยสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนเพื่อประโยชน์ ในกรณีหน่วยงานภาครัฐเบิกเงินตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสำรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 รวมทั้งภารกิจตรวจสอบความปลอดภัยอาคารให้กับประชาชน
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ กฟผ. ทั้งส่วนกลาง เขตเขื่อน โรงไฟฟ้า ได้บรรจุถุงยังชีพ และลงพื้นที่ส่งมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยแล้วกว่า 12,000 ชุด
