
PEA ต่อจิ๊กซอร์โซลาร์เซลล์พัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมากบน “เกาะพะลวย” พลิกโฉมสู่ Green Island เกาะแรกของประเทศไทยอย่างสมบูรณ์แบบ เผย “ผู้ประกอบการรีสอร์ท-ชาวบ้าน” ยิ้มร่าต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลง หนุนลดค่าใช้จ่ายสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แถมกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
“เกาะพะลวย” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยกำลังหลงใหลในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชายหาดที่สวยงามเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ มีเนื้อที่ราว 16 ตารางกิโลเมตร ทางด้านเหนือตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่เขตตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีจุดเด่นที่คนมักเรียกติดว่า “Virgin Island” หรือ หรือ “Green Island” เนื่องจากเป็นต้นแบบเกาะพลังงานสะอาดแห่งแรกของประเทศไทยมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 189 ครัวเรือน และมีหน่วยงานราชการจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านเกาะพลวย ไปรษณีย์เกาะพะลวย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะพลวย และอ่างเก็บน้ำเกาะพะลวย (พพ.)

ก่อนหน้านี้ประชาชนบนเกาะพะลวยประสบปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน ต้องใช้ไฟจากระบบโซลาร์เซลล์ ที่ติดตั้งโดยโครงการของรัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน และเครื่องปั่นไฟดีเซล ซึ่งมีต้นทุนน้ำมันราคาสูง หรือบางครัวเรือนมีแบตเตอรี่เก็บไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ใช้ตอนกลางคืน แต่ยังคงประสบปัญหาเนื่องจากสภาพอากาศ ล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้บริการเพียงพอกับความต้องการของชุมชนแล้ว โดย “นายมงคล ตรีกิจจานนท์” ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก และมี “นายอุดมศักดิ์ เต็มวงษ์” รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวรายงาน ณ เกาะพะลวย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

โดยนายมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า PEA ได้เข้ามาดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 1,000 kW ระบบกักเก็บพลังงานขนาด 1.935 MWh ระบบกำเนิดไฟฟ้าสำรอง 2 เครื่อง เครื่องละ 300 kW รวม 600 kW รวมมูลค่า 172 ล้านบาท ซึ่งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ จะทำงานสลับกันตามความเหมาะสมของสภาพภูมิอากาศ หรือในกรณีที่ความเข้มของแสงไม่เพียงพอสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่เหลือพลังงานต่ำกว่าที่กำหนด ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะแบบ Microgrid จะสั่งการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองเพื่อช่วยจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทำงานร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ ทำให้ระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและมั่นคง เพื่อให้ชาวบ้านบนเกาะพะลวยที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ได้มีไฟฟ้าใช้ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและประกอบอาชีพในการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตและทำให้ชาวบ้านมีความสะดวกสบาย มีอาชีพเพื่อส่งเสริมรายได้และพัฒนาด้านการศึกษา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Island) ถือว่าเป็นเกาะพลังงานต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย

“PEA เราได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ระบบกักเก็บพลังงาน และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเกาะพะลวยได้รับความสะดวกสบาย เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีความมั่นคงด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการลดการเหลื่อมล้ำของประชาชน สามารถลดรายจ่ายและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และอัตราค่าไฟฟ้าก็จ่ายเท่ากับประชาชนชนที่อยู่บนฝั่ง 4.22 บาทต่อหน่วย” ผู้ว่าการ PEA กล่าว

ด้านนางปุณณภา เพชรทอง ผู้ประกอบการ “เกาะพะลวย บีช บังกะโล” กล่าวว่า ช่วงแรกๆ การเปิดให้บริการบีช บังกะโล ยังไม่มีไฟฟ้าใช้มีเพียงตะเกียงให้แสงสว่างกับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งต่อมาได้ใช้เครื่องปั่นไฟมาผลิตไฟฟ้าบวกกับใช้ระบบโซลาร์เซลล์ แต่ก็ถือว่าปริมาณไฟฟ้ายังขาดแคลนเพราะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี จนกระทั่ง PEA ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนเกาะพะลวยสำเร็จ ถึงช่วยให้ทางบังกะโลมีแสงสว่างใช้ที่ดีขึ้น และยังสามารถใช้พัดลม หม้อหุงข้าว เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้อีกด้วย ยกเว้นเครื่องปรับอากาศที่ยังไม่อนุญาติให้ใช้ได้

“PEA ได้เข้ามาติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนเกาะพะลวยถือว่าเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ตอนนี้บนเกาะพะลวยมีรีสอร์ททั้งหมด 9 แห่ง คาดว่าในอนาคตจะมีเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวหลักๆ จะมาจากเยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยที่นิยมมาท่องเที่ยวกันเป็นกลุ่มในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ต้องขอขอบคุณทาง PEA เป็นอย่างมากที่ได้ผลิตไฟฟ้าให้ชุมชนและผู้ประกอบได้ใช้กัน”

ขณะที่นายสมชาย พิประโคน เจ้าของร้านขายของชำ “นุชกัปตัน” บนเกาะพะลวย กล่าวว่า เมื่อก่อนทางร้านใช้โซลาร์เซลล์และเครื่องปั่นไฟเพื่อผลิตไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายตกอยู่เดือนละประมาณ 1,500-2,000 บาท แต่หลังจาก PEA ได้จ่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ทุกครัวเรือนได้ใช้กันแล้วทางร้านได้จ่ายค่าไฟฟ้าเหลือเดือนละ 500-600 บาท ซึ่งถือว่าลดค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก แม้ว่าจะใช้ไฟฟ้าเป็นแสงสว่างตามปกติ รวมถึงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนเดิมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นพัดลม เครื่องซักผ้า หรือตู้แช่เย็นแช่แข็ง แล้วก็ตาม

ส่วนนางจิราพร ขวยเจริญ ชาวบ้านเกาะพะลวย หมู่ที่ 6 กล่าวว่า ตนก็มีปัญหาเหมือนกับชาวบ้านบนเกาะพะลวยทุกๆ คน ที่มีภาระค่าไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟและโซลาร์เซลล์อยู่ประมาณเดือนละ 1,000 กว่าบาท พอมีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของ PEA มาใช้ ไม่ได้จ่ายค่าไฟฟ้าตามสิทธิ์ผู้มีรายได้น้อย ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากๆ เลย


