Saturday, 8 November 2025 - 7:11 pm
spot_img
Saturday, 8 November 2025 - 19:11
spot_img

กลุ่มไดร์เวอร์ป้ายขาว–ป้ายเขียว ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียกร้องปฏิรูปกฎหมายขนส่ง–แพลตฟอร์มเรียกรถ เปิดโอกาสคนทำมาหากินอย่างถูกต้องในยุคดิจิทัล

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ตัวแทนสองกลุ่มผู้ให้บริการเดินรถในระบบแอปพลิเคชัน ได้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน (รย.17–18) นำโดย นายจักริน สุนทรจินดา และ กลุ่มผู้ขับรถบริการทัศนาจร (รย.10) หรือ “รถป้ายเขียว” นำโดย นายเกรียงไกร ลาภจตุรพิธ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง ท่านนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT), กรมการขนส่งทางบก และ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งพิจารณาแนวทางการปฏิรูปกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับระบบแพลตฟอร์มเรียกรถ ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสร้างความเท่าเทียมในการประกอบอาชีพของผู้ให้บริการ

โดยกลุ่มรถป้ายเขียว (รย.10) กลุ่มผู้ประกอบการรถบริการทัศนาจร (รย.10) ได้เสนอให้รัฐบาลและกรมการขนส่งทางบก พิจารณาอนุญาตให้รถป้ายเขียวที่มีใบอนุญาตถูกต้อง สามารถรับงานผ่านแพลตฟอร์มเรียกรถ เช่น Grab ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย. ภายหลังจากบริษัท Grab มีประกาศเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ตัดสิทธิ์รถป้ายเขียวไม่ให้เข้ารับผู้โดยสารในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ. ก่อนหน้าประกาศดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่จากบริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) เข้ามาถ่ายภาพรถป้ายเขียวบริเวณลานจอด Grab ซึ่งสร้างความเข้าใจในหมู่ผู้ขับว่ามีการกีดกันหรือจำกัดสิทธิ์ของรถป้ายเขียวในพื้นที่สนามบิน เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทั่วประเทศ ทั้งที่รถป้ายเขียวเป็นรถที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการตรวจสภาพประจำปี ผู้ขับมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และผ่านการอบรมมาตรฐานบริการและความปลอดภัยจากหน่วยงานภาครัฐ.

นายเกรียงไกร ลาภจตุรพิธ กล่าวว่า “รถป้ายเขียวทุกคันดำเนินงานถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นฟันเฟืองสำคัญในระบบการท่องเที่ยวของประเทศ นักท่องเที่ยวยุคใหม่ส่วนใหญ่เลือกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เพราะสะดวก ปลอดภัย และตรวจสอบได้ อีกทั้งมีระบบ GPS Tracking แบบเรียลไทม์ จึงควรมีแนวทางทางกฎหมายที่รองรับ เพื่อให้รถป้ายเขียวสามารถให้บริการผ่านแพลตฟอร์มได้อย่างโปร่งใส สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศแห่งการต้อนรับนักท่องเที่ยว”

กลุ่มผู้ประกอบการรถป้ายเขียวเห็นว่า การเปิดให้รถป้ายเขียวเข้าร่วมระบบแอปพลิเคชันอย่างถูกต้อง จะช่วยส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม สนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยกระดับคุณภาพการให้บริการของประเทศไทยในระดับสากล

ส่วนกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ผ่านแอปฯ (รย.17–18) นำโดย นายจักริน สุนทรจินดา ได้เสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และเหมาะสมกับยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีข้อเสนอสำคัญ 5 ประการ ได้แก่

1. เปิดระบบลงทะเบียนโดยไม่ต้องเปลี่ยนประเภทรถ เพื่อให้ประชาชนเข้าสู่ระบบได้ง่ายขึ้น.

2. เพิ่มความคุ้มครองผ่านประกันภัยภาคสมัครใจ ให้เหมาะสมกับรายได้ของผู้ขับ.

3. คงมาตรฐานความปลอดภัยของผู้ขับและรถยนต์ ตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก.

4. ออกสัญลักษณ์หรือสติกเกอร์รับรองจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ตรวจสอบได้ชัดเจน.

5. ชะลอการจับปรับระหว่างรอกฎหมายใหม่ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่าน.

นายจักริน กล่าวว่า “ทุกคนพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย แต่สิ่งที่ต้องการคือโอกาสในการประกอบอาชีพอย่างสุจริต ขอให้ภาครัฐเปิด ‘ประตูแห่งโอกาส’ ให้คนทำงานสุจริตสามารถอยู่ในระบบได้อย่างเท่าเทียม และมีรายได้มั่นคงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล”

ทั้งนี้ สองกลุ่มมีจุดยืนร่วมกันในการผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบขนส่งที่ปลอดภัย โปร่งใส และยั่งยืน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะ “Land of Hospitality” พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการและสร้างความเชื่อมั่นในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เราทุกคนพร้อมทำตามกฎหมาย เพียงขอให้รัฐเปิดประตูแห่งโอกาส เพื่อให้คนทำงานสุจริตสามารถยืนอยู่ในระบบได้อย่างเท่าเทียม.”

spot_img

LATEST NEWS