เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นายเอริค จ้าว รองประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดโซลูชันไร้สายของหัวเว่ย เปิดเผยแผนการนำ AI ยกระดับประสิทธิภาพเครือข่าย ในการปราศรัยหัวข้อเทคโนโลยี 5G-A และ AI ณ มหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก Mobile World Congress Shanghai 2024 (MWC Shanghai 2024) ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน การยกระดับมุ่งเน้นการบ่มเพาะอีโคซิสเต็ม RAN Intelligent Agent ร่วมกับผู้ให้บริการเพื่อยกระดับขีดความสามารถของเครือข่าย ซึ่งในระยะแรกจะครอบคลุมวิศวกรภาคสนามจำนวน 1,000 คน และไซต์ 10,000 แห่งในมณฑลหางโจว, นครกวางโจว, กรุงเทพมหานคร, นครจีนาน และนครเซินเจิ้นภายในระยะเวลาครึ่งปี
ด้วยความทุ่มเทจากทุกภาคส่วนตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ภาคโทรคมนาคมได้เห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G-A จากการทำให้วิสัยทัศน์ได้กลายเป็นความจริง และในปี พ.ศ. 2567 ยังถือเป็นปีแรกที่มีการใช้งานเทคโนโลยี 5G-A ในเชิงพาณิชย์อีกด้วย โดยเทคโนโลยี 5G-A ได้แสดงประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ทั้งด้านประสิทธิภาพเครือข่าย ธุรกิจ และการพัฒนาอุปกรณ์ โดยปัจจุบันเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) ที่ซับซ้อน เครือข่ายที่มีความแตกต่าง รวมถึงการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้สอดคล้องกับความท้าทายดังกล่าว หัวเว่ยได้ชูกลยุทธ์นำเทคโนโลยี AI มายกระดับเครือข่ายด้วยการสร้าง RAN Intelligent Agent เพื่อพลิกโฉมเรื่องการดำเนินงานและการบำรุงรักษา ประสบการณ์การใช้งาน และการให้บริการเครือข่าย ซึ่งการนำ AI มาใช้ในเครือข่าย 5G-A จะเป็นบทพิสูจน์เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย โดย RAN Intelligent Agent ยังมีฟังก์ชัน Copilots ที่รองรับแชทบอทในบทบาทต่าง ๆ และเอเจนท์ที่รองรับโซลูชันตามสถานการณ์แบบอัตโนมัติ
การพลิกโฉมด้านการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M): RAN Intelligent Agent เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการทำให้กระบวนการง่ายขึ้น ตัวอย่างที่เปี่ยมประสิทธิภาพคือ การที่หัวเว่ยเปิดตัวระบบผู้ช่วยวิศวกรซ่อมบำรุงภาคสนาม Copilot และนับเป็นครั้งแรกของ Copilot ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ได้เสนอนโยบายโซลูชันแบบอัตโนมัติตามความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยระหว่างการทดสอบภาคสนาม ระบบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อบกพร่องของเส้นทางระบบออฟติคได้ถึงสิบเท่า
การพลิกโฉมประสบการณ์: RAN Intelligent Agent เพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายรวมถึงช่วยประหยัดพลังงานได้แบบอัตโนมัติ โดยอาศัยการตรวจจับแบบเรียลไทม์ที่มีความแม่นยำสูงในหลายมิติ ตลอดจนการสร้างและการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและเป็นไปตามนโยบายการประหยัดพลังงาน บนพื้นที่ซึ่งประกอบด้วย 223 เซลล์ RAN Intelligent Agent ทำงานได้เสถียรเป็นเวลาหลายพันชั่วโมง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดโดยอัตโนมัติ ในขณะที่ยังสามารถคงการใช้พลังงานให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นับเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยร่วมมือกับผู้ให้บริการ เปลี่ยนมาใช้งานเครือข่าย O&M แบบอัตโนมัติ
การพลิกโฉมบริการ: RAN Intelligent Agent มอบบริการที่ขับเคลื่อนผ่านประสบการณ์โดยใช้การประเมินทรัพยากรเครือข่ายแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมอบบริการใหม่ได้ทันทีที่จำเป็น และมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การบริการตามที่คาดหวัง โดยแพ็คเกจการรับประกันการสตรีมแบบถ่ายทอดสด 5G-A มอบประโยชน์เป็นอย่างมากต่อผู้ใช้งาน เพราะนับเป็นแพ็กเกจสตรีมมิงถ่ายทอดสดแพ็คเกจแรกของโลก ที่ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ใช้ความเร็วในการอัปโหลดที่กำหนดได้ตามต้องการเพื่อเข้าถึงลูกค้าผ่านการสตรีม ถือเป็นตัวอย่างในการสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจของผู้ให้บริการเพื่อเร่งผลักดันการสร้างรายได้
“เป้าหมายของเราคือการนำ AI มาสู่เครือข่ายต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เราจะเปลี่ยนจากผู้ให้บริการโซลูชันไปสู่การเป็นผู้ร่วมพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะ เราเชื่อว่าการเติบโตร่วมกันของเครือข่าย และ RAN Intelligent Agent จะผลักดันการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ, พลิกโฉมเครือข่ายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และนำอุตสาหกรรมของเราเข้าสู่ยุคอัจฉริยะ” นายจ้าว กล่าวสรุป
ปี พ.ศ. 2567 นับเป็นปีแรกของการให้บริการ 5G-A ในเชิงพาณิชย์ และเริ่มใช้เครือข่ายออปติคอล F5G-A กิกะบิท การผสานการทำงานระหว่างระบบเครือข่าย, คลาวด์, และระบบอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มการใช้งานแอปพลิเคชันอัจฉริยะให้แพร่หลายและสร้างประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้หัวเว่ยร่วมเจาะลึกประเด็นท้าทายร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลก, ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม, และผู้นำความคิด เช่น การขยายความสำเร็จของ 5G ในยุค 5G-A และการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของรายได้ที่เติบโตของผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อนำทางสู่โลกอัจฉริยะให้รุดหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น