ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เร่งตรวจสอบและเรียกเก็บค่าพาดสายสื่อสารของหน่วยงานเอกชนและรัฐวิสาหกิจบนเสาไฟฟ้าของ PEA ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดนั้น
วันนี้ (16 ธันวาคม 2567)นายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับการพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ PEA โดยไม่ได้รับอนุญาต PEA ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบกิจการกิจการโทรคมนาคมมาโดยตลอด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างรอบคอบและรัดกุม ปัจจุบันมีความต้องการใช้งานด้านการสื่อสารการขยายตัวเป็นอย่างมาก ประกอบกับผู้ประกอบกิจการฯ ดำเนินการโดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่เสาไฟฟ้า ไม่สามารถรองรับสายสื่อสารปริมาณมาก และ PEA ไม่สามารถอนุญาตให้พาดสายเพิ่มเติมได้ เป็นเหตุให้ผู้ประกอบกิจการฯ พาดสายโดยไม่ได้รับอนุญาต
“การพาดสายสื่อสารที่เสาไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต PEA ได้มีการติดตามสินไหมทดแทนจากผู้ประกอบการสื่อสารมีจำนวน 113 เส้นทาง รวมถึงสายสื่อสารที่พาดเสาไฟฟ้าเกินขนาดที่จะรองรับได้ และสายสื่อสารที่ไม่ได้มีการใช้งานแล้วก็จะดำเนินการรื้อถอนด้วย”
สำหรับแนวทางในการดำเนินการกับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่พาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หาก PEA ตรวจพบจะเรียกเก็บค่าสินไหมทดแทนจากผู้ประกอบกิจการฯ ดังกล่าว พร้อมแจ้งให้ดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องหรือกรณีที่ PEA ไม่สามารถอนุญาตให้พาดสายได้ ผู้ประกอบการฯ ต้องรื้อถอนสายสื่อสารออก ทั้งนี้ หากผู้ประกอบกิจการฯ ที่กระทำการพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ไม่ดำเนินการรื้อถอนหรือขออนุญาตให้ถูกต้อง หรือชำระค่าสินไหมทดแทนให้ครบถ้วน PEA จะรวบรวมเอกสาร หลักฐาน เพื่อดำเนินกระบวนการตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและรื้อถอนสายสื่อสารดังกล่าวออกต่อไป
ปัจจุบัน PEA รอการชำระเงินมาแล้วเป็นจำนวน 1,467 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ฟ้องได้ดำเนินการฟ้องคดีและผลการพิจารณาปรากฏว่า PEA ชนะคดีเป็นจำนวนเงินประมาณ 800 ล้านบาท และเงินที่ทางผู้ประกอบการมาขอชำระเอง เป็นจำนวน 600 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการที่ทาง PEA ได้ยื่นหนังสือให้ผู้ประกอบการมาชำระแล้วแต่ยังไม่มีการชำระแต่อย่างใด และยังไม่ได้ดำเนินคดีเป็นจำนวนเงิน 13,552 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปสู่การฟ้องคดีซึ่งดำเนินการบนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และยึดหลักกฎหมาย เพื่อความถูกต้อง ประการสำคัญจะต้องไม่ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการสายสื่อสารด้วย
“PEA ได้มีการตรวจสอบการพาดสายสื่อสารกับเสาไฟฟ้าที่ผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือให้ทางผู้ประกอบการมายื่นชำระค่าสินไหมทดแทนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับผู้ประกอบการที่อยู่ในวงเงินสินไหมทดแทนจำนวนกว่า 13,000 ล้านบาท ทาง PEA ได้ยื่นโนติสให้ผู้ประกอบการมาชำระภายใน 45 วันตามกฏหมายกำหนดไว้ ถ้าหากเลยกำหนดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป”นายประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
