“KCG” ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย จัดพิธีเปิดศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า “KCG Logistics Park” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ตามหนึ่งในแผนขยายธุรกิจจากการระดมทุน IPO ตั้งแต่ปี 2566 ที่ผ่านมา โดยทุ่มงบ 350 ล้านบาท และดำเนินการบนพื้นที่ 15 ไร่ ณ โรงงานบางพลี เพิ่มศักยภาพให้บริษัทสามารถบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพครบวงจรในระดับสากลด้วยเทคโนโลยี และตอบโจทย์ความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดในอีก 3-5 ปีข้างหน้า สู่เป้าหมายสร้างการเติบโต 10,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกที่ครบวงจรทั้งการผลิต จัดจำหน่าย และการรักษาคุณภาพสินค้าจนถึงมือผู้บริโภค
นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย กล่าวว่า “การเปิดศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park เป็นไปตามยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ (7 Business Pillars) ที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจจากการบริหารห่วงโซ่อุปทาน และสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน โดย KCG มองว่า ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าเป็นข้อต่อสำคัญระหว่างการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพของ KCG กับการจัดส่งสินค้าทั้งหมดกว่า 50 แบรนด์ ให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วปลอดภัย และรักษาคุณภาพของสินค้าไว้อย่างดี เราจึงทุ่มงบลงทุน 350 ล้านบาทในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากลเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ พร้อมทั้งตอบโจทย์เรื่องการสร้างความยั่งยืนไปพร้อมกัน”
KCG Logistics Park เป็นศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าบนพื้นที่กว่า 12,000 ตร.ม ที่ประกอบด้วยคลังสินค้า 6 อาคาร ที่สามารถเก็บวัตถุดิบและสินค้าทั้งหมดได้ครบทุกอุณหภูมิ ไม่ว่าจะ อุณหภูมิปกติ (Ambient) ปรับอากาศ (Air-conditioned) แช่เย็น (Chilled) และแช่แข็ง (Frozen) รองรับการจัดเก็บได้มากถึง 14,000 พาเลท โดยมีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย มาช่วยในการเพิ่มศักยภาพการบริหารคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นระบบ Automation อย่าง WMS System, Pallet Shuttle Racking System, และ Fullfillment System ที่ช่วยบริหารจัดการคลังสินค้า และดูแลระบบจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างแม่นยำ รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง TMS System และ GPS Tracking System ที่ช่วยบริหารจัดการการขนส่งที่ครอบคลุมกระบวนการต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทาน และระบบติดตามตำแหน่งผ่านดาวเทียมแบบเรียลไทม์ ส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ปลอดภัย นอกจากนั้น ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช่าโกดังสินค้าภายนอกได้ถึงประมาณปีละ 50 ล้านบาท
“KCG Logictics Park เป็นศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถขนส่ง EV การใช้โฟล์คลิฟท์ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม รวมทั้งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการติดโซลาร์ ที่ KCG Logistics Park โรงงานบางพลี รวมถึงที่ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัททั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และขอนแก่น ซึ่งรวมแล้วจะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 1,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ใน 1 ปี เทียบได้กับการปลูกต้นไม้กว่า 120,000 ต้น และจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าประมาณปีละ 10 ล้านบาท โดยการเปิด KCG Logistics Park อย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบจึงเป็นหมุดหมายสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน” นายดำรงชัย กล่าว